"ถ้าเค้าไม่ชอบ จะมาให้ความหวังกูทำไมวะ?"
หลายคนคงเคยได้ยินคำถามนี้ หรือแม้แต่เคยเกิดคำถามนี้กับตัวเอง ประโยคแบบนี้มักเกิดขึ้นในสถานการณ์เมื่อเราชอบใครซักคนอย่างจริงจัง และมองเห็นความหวังที่เราคิดว่าเกิดขึ้นจากอีกฝ่าย
แต่การให้ความหวังในความหมายของเราคืออะไร?
บางคนก็บอกว่าการโทรคุยกันทุกวันคือการให้ความหวัง การไปกินข้าวกันบ่อย การสนทนากันในเรื่องลึกซึ้ง การบอกฝันดีก่อนนอน หรือแม้แต่ Skinship บางอย่างที่อีกฝ่ายทำกับเราก็เป็นการให้ความหวัง
สิ่งเหล่านี้เรามองว่ามันเป็นเรื่องพิเศษที่เกิดขึ้นระหว่างเราและเค้า เป็นความหวังที่เค้ามีให้กับเรา และความสัมพันธ์ครั้งนี้กำลังเดินไปในทางที่ถูกที่ควรอย่างที่มันควรจะเป็น
แต่สุดท้ายแล้วมันกลับจบลงที่อีกฝ่ายบอกว่าไม่เคยคิดอะไรกับเรา
“ถ้าเค้าไม่ชอบเค้าจะให้ความหวังกูทำไมวะ?”
จึงเกิดขึ้นมาด้วยผลรวมของสิ่งเหล่านี้
เพื่อนคนนึงเคยเล่าว่า มีครั้งนึงที่ตัวเองติดอยู่ในความสัมพันธ์แบบนี้มาเป็นระยะเวลานาน หลายครั้งที่เหนื่อยจนคิดจะออกมาแต่ก็ถูกรั้งกลับไปเพราะคิดว่าเค้ายังให้ความหวังเราอยู่ และก็ทนอยู่ตรงนั้น จากหน่วยเดือนไปเป็นหน่วยปี
ความไม่ชัดเจนยังคงอยู่จนมาถึงจุดสุดท้ายของความอดทน เมื่อคำถามนี้เกิดขึ้น อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาว่า
“เค้าบอกเค้าไม่เคยให้ความหวังอะไรเลย เค้าทำทุกอย่างปกติเหมือนที่ทำกับเพื่อนเค้าทุกคน เค้าไม่ได้คิดอะไร นี่กูคิดเหรอ?....วันนั้นกูตาสว่างเลย ว่าจริงๆแล้วตลอดเวลาที่ผ่านมามันไม่ได้ให้ความหวังเราหรอก"
มีแต่เราน่ะแหละที่ให้ความหวังตัวเอง”
ความหวังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นและขับเคลื่อนด้วยแรงปรารถนาของตัวเราเอง แล้วด้วยความที่มันเกิดจากความคิดของตัวเราเอง ไม่ว่าเรื่องที่ผ่านมาจะชัดเจนสำหรับเรามากขนาดไหน มันก็ซับซ้อนจนไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายนั้นมีให้คือมีหรือไม่เคยมีอยู่จริง
ความหวังจึงเป็นเรื่องที่แยกออกยากว่าจริงๆแล้วมาจากอีกฝ่ายเป็นคนให้
หรือมาจากเราที่สร้างมันขึ้นมาเอง
“มึงเชื่อป้ะ บางทีถ้ามึงมองดีๆแล้วคำถามอาจจะไม่ใช่ ไม่ชอบกูแล้วมาให้ความหวังกูทำไม” มันอาจจะกลายเป็น
“เค้าไม่ชอบกู กูจะให้ความหวังตัวเองทำไม….แบบนี้ก็ได้”
และเพื่อนก็พูดจบสรุปไว้แบบนี้
รัก
ช่า บันทึกของตุ๊ด